Performance Max คืออะไร? แคมเปญโฆษณารูปแบบใหม่จาก Google

Wittawat Asawasukhon
February 23, 2023

เมื่อพูดถึงเครื่องมือสำหรับการโฆษณาออนไลน์ หลายๆ คนคงนึกถึงการโฆษณาบน Google หรือที่นิยมเรียกกันว่า Google Ads เป็นอันดับแรก เนื่องจากเป็นเครื่องมือการโฆษณาออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งทาง Google ได้มีการปรับปรุงระบบและพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ผู้ลงโฆษณาได้รับผลลัพธ์จากการโฆษณาที่ดีที่สุด โดยล่าสุดทาง Google ได้ออกฟีเจอร์ใหม่ ที่จะช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นในขั้นตอนง่ายๆ และช่วยประหยัดเวลาได้อีกด้วย ฟีเจอร์การโฆษณานี้มีชื่อเรียกว่า “Performance Max”

ทำความรู้จักกับ Performance Max

Performance Max คือแคมเปญโฆษณาที่เน้นเป้าหมาย หรือที่เรียกว่าวัตถุประสงค์ของโฆษณา เช่น ยอดขาย โอกาสในการขาย การเข้าชมเว็บไซต์ และการเข้าชมร้านค้าและโปรโมชันในพื้นที่ เป็นต้น โดย Performance Max จะช่วยสร้างโฆษณาผ่านทุกช่องทางของ Google ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Display, Search, Discover, Gmail และ Maps ได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

ช่องทางของ Google ที่ Performance Max จะช่วยสร้างแคมเปญโฆษณา
                                            ช่องทางของ Google ที่ Performance Max จะช่วยสร้างแคมเปญโฆษณา
                                                                                ที่มา: blog.google

ทาง Google ได้มีการนำระบบ Machine Learning มาเป็นตัวช่วยในการค้นหากลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ผลการวิเคราะห์และรันแคมเปญของ Performance Max เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงตามจุดประสงค์การโฆษณา ซึ่งเครื่องมือนี้จะเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงพื้นที่โฆษณาใหม่ๆ และช่วยลดระยะเวลาในการสร้างชุดโฆษณา อีกทั้งยังช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้อีกด้วย ซึ่งถือว่า Performance Max เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการโฆษณาบน Google ได้อย่างก้าวกระโดด

นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดเด่นของ Performance Max ก็คือ “ระบบอัตโนมัติ” ที่จะช่วยจัดสรรงบโฆษณาให้อัตโนมัติ เลือกตำแหน่งโฆษณาให้อัตโนมัติ เลือกกลุ่มเป้าหมายให้อัตโนมัติ และปรับราคาประมูลให้อัตโนมัติ เพื่อที่ผู้ลงโฆษณาจะได้ผลลัพธ์จากการทำโฆษณาบน Google เพิ่มมากขึ้น แต่ใช้เวลาในการจัดการแคมเปญโฆษณาน้อยลง

โดยวิธีการสร้างแคมเปญโฆษณาจาก Performance Max นั้นไม่ได้มีความซับซ้อนแต่อย่างใด เพียงแค่อัปโหลดข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ หลังจากนั้นทำการเลือกวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมาย เพียงเท่านี้ Google ก็จะทำการเรียนรู้และประมวลผลข้อมูลทั้งหมด เพื่อทำให้โฆษณากระจายไปยังช่องทางต่างๆ ของ Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ระบบอัตโนมัติของแคมเปญ Performance Max
                                                             ระบบอัตโนมัติของแคมเปญ Performance Max
                                                                                 ที่มา: konvertive


ข้อดีของการใช้ Performance Max 

  • การโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้น

ระบบ Machine Learning ของทาง Google จะเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์และรันแคมเปญของ Performance Max ทำให้โฆษณาสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้มากที่สุด อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาได้อีกด้วย

  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

Performance Max จะช่วยค้นหากลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพผ่านช่องทางต่างๆ ของ Google ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Display, Search, Discover, Gmail และ Maps ให้โดยอัตโนมัติ 

  • ลดระยะเวลาในการสร้างโฆษณา

Performance Max สามารถช่วยลดเวลาในการสร้างและปรับแต่ง (Optimize) แคมเปญโฆษณาได้ เนื่องจากเครื่องมือนี้จะช่วยรันแคมเปญไปสู่ทุกช่องทางของ Google ได้อย่างอัตโนมัติจากการสร้างแคมเปญภายในครั้งเดียว


แล้ว Performance Max เหมาะกับการใช้เมื่อไหร่?

  • มีเป้าหมายการโฆษณาและ Conversion ที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง เช่น การเพิ่มยอดขายออนไลน์ หรือการเพิ่มยอดการเข้าชมเว็บไซต์ เป็นต้น
  • ต้องการเข้าถึงทุกช่องทางการโฆษณาของ Google ได้อย่างง่ายดาย โดยใช้เพียงแคมเปญเดียว
  • ต้องการลดระยะเวลาและความยุ่งยากในการสร้างและปรับแต่ง (Optimize) แคมเปญโฆษณา
  • ต้องการเพิ่มการเข้าถึงและจำนวน Conversion ให้มากขึ้นนอกเหนือไปจากการใช้แคมเปญโฆษณา Search ตามคีย์เวิร์ด



กรณีศึกษา (Case Study) จากการใช้ Performance Max

ตัวอย่างการยิงโฆษณาบน Google ของธุรกิจรายหนึ่ง โดยเป็นการเปรียบเทียบการใช้งานระหว่าง Performance Max และ Google Search ในการรันแคมเปญโฆษณาพร้อมกัน ในช่วง สิงหาคม 2564 - ธันวาคม 2564 ซึ่งมีผลลัพธ์ดังต่อไปนี้

  • จำนวน Conversion ของ Performance Max สูงกว่า Google Search ถึง 98%
  • Conversion Rate ของ Performance Max สูงกว่า Google Search ถึง 136%
  • Cost Per Conversion ของ Performance Max ต่ำกว่า Google Search ถึง 80%
  • Ad Spend ของ Performance Max ต่ำกว่า Google Search ถึง 60%
ตัวอย่างผลลัพธ์ของ Performance Max VS Standard Paid Search
                                               ตัวอย่างผลลัพธ์ของ Performance Max VS Standard Paid Search
                                                                                   ที่มา: purecars


Performance Max กับแนวโน้มการโฆษณาออนไลน์ในปี 2023
 

แน่นอนว่าฟีเจอร์การโฆษณารูปแบบใหม่จากทาง Google ได้รับผลตอบรับที่ค่อนข้างดีจากผู้ที่ได้ใช้งานจริง โดย Performance Max ได้แสดงให้เห็นว่าสามารถช่วยให้การทำโฆษณาออนไลน์เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ประหยัดเวลาและงบประมาณได้มากขึ้น อีกทั้งยังทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เพราะฉะนั้นฟีเจอร์นี้จึงเป็นผลดีต่อผู้ที่มีประสบการณ์ด้านการทำโฆษณาออนไลน์ไม่มาก ดังนั้นในปี 2023 นี้ เราจะได้เห็นแพลตฟอร์มต่างๆ ในวงการการโฆษณาออนไลน์ทำการพัฒนาระบบ Machine Learning และระบบอัตโนมัติ เพื่อที่จะทำให้การทำโฆษณาออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งจะทำให้การทำโฆษณาบนช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับทุกคน 

สรุป

Performance Max คือแคมเปญโฆษณารูปแบบใหม่จากทาง Google ที่จะช่วยสร้างโฆษณาผ่านทุกช่องทางของ Google ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Display, Search, Discover, Gmail และ Maps อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงพื้นที่โฆษณาใหม่ๆ ช่วยลดระยะเวลาในการสร้างชุดโฆษณา และช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีระบบอัตโนมัติที่จะช่วยจัดสรรงบโฆษณาให้อัตโนมัติ เลือกตำแหน่งโฆษณาให้อัตโนมัติ เลือกกลุ่มเป้าหมายให้อัตโนมัติ และปรับราคาประมูลให้อัตโนมัติ เพื่อที่ผู้ลงโฆษณาจะได้ผลลัพธ์จากการทำโฆษณาบน Google เพิ่มมากขึ้น แต่ใช้เวลาในการจัดการแคมเปญโฆษณาน้อยลง

มาถึงตรงนี้ทุกคนคงจะเข้าใจกันแล้วว่า Performance Max คืออะไร มีข้อดีอย่างไร และเหมาะที่จะใช้ในตอนไหน ใช่ไหมครับ หากอยากศึกษาแบบเจาะลึกว่าเจ้าฟีเจอร์นี้มีวิธีการใช้งานอย่างไร ผมอยากให้ทุกคนรอติดตามบทความถัดๆ ไปของ Friday Digital นะครับ รับรองว่าจะได้รับความรู้ไปอย่างแน่นๆ เพื่อนำไปต่อยอดได้อย่างแน่นอน

หวังว่าผู้อ่านทุกคนจะได้รับประโยชน์จากบทความนี้ไปไม่มากก็น้อยนะครับ :) 💙



ปรึกษาการทำการตลาดออนไลน์กับผู้เชี่ยวชาญจาก Friday Digital เลย!

Email: hello@fridaydigital.co
Phone: 065-962-2064
Location: อาคารอัมรินทร์ทาวเวอร์ เลขที่ S5056-5057 ชั้น 5 เลขที่ 496-502 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 ประเทศไทย